การเลือกวัสดุที่ใช้สำหรับทำหลังคาโรงจอดรถหรือกันสาดนั้น นอกจากวัสดุแบบทึบแสงแล้วยังมีวัสดุอีกประเภทหนึ่งที่ในปัจจุบันจัดว่าได้ รับความนิยมเป็นอย่างมาก และมีแนวโน้มสูงขึ้น นั่นก็คือวัสดุโปร่งแสงที่มีส่วนผสมของพลาสติก ซึ่งข้อดีของวัสดุประเภทนี้นั้นมีอยู่มากมาย เช่น แสงแดดสามารถส่องผ่านเพื่อให้ความสว่างได้ ช่วยประหยัดพลังงาน มีน้ำหนักที่เบากว่าทำให้ใช้เวลาไม่นานในการติดตั้ง ส่งผลให้ค่าใช้จ่ายที่ตามมาจึงไม่สูงมาก และหากคิดจะรื้อถอนก็สามารถทำได้ง่าย
วัสดุที่ใช้ทำหลังคาโปร่งแสง
วัสดุโปร่งแสงที่พบได้ทั่วๆไปในประเทศไทย มี 4 ชนิด ได้แก่
- แผ่น Polycarbonate
- แผ่น Fiberglass
- แผ่น Acrylic
- แผ่น UPVC
-
Polycarbonate (โพลีคาร์บอเนต หรือ PC)
ข้อดี คือ มีน้ำหนักเบา มีสีสันให้เลือกหลากหลาย ทนต่อการเปลี่ยนแปลงของสภาพอากาศได้เป็นอย่างดี และมีความยืดหยุ่นสูงสามารถดัดโค้งได้โดยไม่ต้องพึ่งความร้อน เมื่อเคลือบผิวด้วยสารดูดซับแสง UV จะทำให้มีประสิทธิภาพในการป้องกันความร้อนได้เกือบ 100%
ข้อเสียของแผ่นโพลี คือ ตัวแผ่นที่มีลักษณะแบบลูกฟูกซึ่งทำให้สามารถเก็บกักความชื้นได้ ส่งผลให้เกิดไอน้ำ ตะไคร่ และความขุ่นมัว จึงไม่เหมาะอย่างยิ่งกับการนำไปมุงเป็นหลังคาบ้าน ที่สำคัญราคาค่อนข้างสูง โดยเฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 1,200-2,400 บาทต่อตารางเมตร
-
FRP: Fiberglass Reinforced Plastics (ไฟเบอร์กลาส)
คือ การนำใยแก้วและโพลีเอสเตอร์เรซินชนิดพิเศษ มาเป็นวัตถุดิบของการผลิตหลังคาโปร่งแสง
ข้อดี คือ แผ่นวัสดุมีความแข็งแรงและยืดหยุ่นขึ้น สามารถดัดโค้งได้ มีการขยายตัวที่ต่ำจึงทำให้ติดตั้งแผ่นไฟเบอร์กลาสได้ง่าย มีสีที่ค่อนข้างหลากหลายให้เลือก ซึ่งปริมาณของแสงที่ผ่านแต่ละสีก็จะไม่เท่ากัน โดยมีราคา เฉลี่ยอยู่ที่ประมาณ 900 บาทต่อตารางเมตร
ข้อเสีย Fiberglass คือ สีของตัวแผ่นไฟเบอร์กลาสจะซีดจางและตัวแผ่นที่สามารถมองเห็นเส้นไฟเบอร์ได้ค่อนข้างชัดเจน
-
UPVC: Unplasticized Polyvinyl Chloride (ยูพีวีซี)
UPVC เป็น PVC ที่ถูกนำเอาความเป็นพลาสติกออกไป ทำให้มีเนื้อวัสดุที่ได้ไม่ค่อยยืดหยุ่นแต่แข็งแรง มีทั้งแบบสีขาวขุ่นและแบบผสมสี คุณสมบัติของ UPVC นอกจากจะไม่ดูดซับความชื้นแล้ว ยังป้องกันความร้อนได้ค่อนข้างต่ำ
ข้อดี คือ UPVC (ยูพีวีซี) มีน้ำหนักเบา ติดตั้งได้ง่ายเหมือนการมุงหลังคาทั่วไป ราคาของแผ่นทึบ UPVC ไม่รวมติดตั้งนั้นอยู่ที่ตารางเมตรละประมาณ 300 บาท
ข้อเสีย คือ ต้องคำนึงถึงเมื่อผ่านการใช้งาน เนื้อสีขาวขุ่นของ UPVC ที่คุณภาพต่ำอาจจะเปลี่ยนสีได้ ดังนั้นจึงควรเลือกใช้ยูพีวีซีที่คุณภาพดี และสำหรับวัสดุสีขาวขุ่นนั้นแสงแดดจะสามารถส่องผ่านได้มากที่สุดไม่เกิน 40% เท่านั้น ซึ่งอาจจะทำให้พื้นที่ไม่ได้รับความสว่างเท่าที่ควร
-
ACRYLIC (อะคริลิค)
ข้อดี เหมาะกับงานสไตล์โมเดิร์นเพราะมีผิวที่เรียบโปร่งใสคล้ายกระจก และด้วยความที่เป็นเนื้อพลาสติกจึงสามารถขึ้นรูปแบบต่างๆ ได้ด้วย โดยทั่วไปแผ่นอะคริลิคจะทนต่อรังสีอัลตราไวโอเลตได้ดี จึงเหมาะกับการใช้งานภายนอก มีความแข็งแรงทนทานพอสมควร แต่จะทนแรงกระแทกได้น้อยกว่าวัสดุโพลีคาร์บอเนต
อย่างไรก็ตาม มีการพัฒนาแผ่นอะคริลิคที่มีที่มีคุณสมบัติด้านต่างๆ ดียิ่งขึ้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องความทนทานต่อแสงแดด แรงกระแทก และอายุการใช้งาน ทั้งยังมีรุ่นที่สามารถลดความร้อนจากแสงแดดได้ในตัว โดยไม่ต้องติดฟิล์มเพิ่ม ทำให้สามารถนำมาใช้เป็นหลังคาอะคริลิค ซึ่งเหมาะมากกับบ้านที่ต้องการความสวยงาม ทนทาน และประหยัดพลังงานไปพร้อมๆ กัน ซึ่งก็คือ แผ่นอะคริลิค ShinkoLite (ชินโคไลท์) ที่ผลิตโดยความร่วมมือกันของบริษัท SCG และมิตซูบิชิ
หลังคาโรงรถที่เลือกใช้วัสดุเป็นหลังคาโปร่งแสงแต่ละชนิดนั้นต่างก็ มีข้อดีและข้อเสียที่แตกต่างกันออกไป ขึ้นอยู่กับความต้องการของผู้ใช้งาน อย่างไรก็ตามด้วยเทคโนโลยีที่ทันสมัย ทำให้หลังคาโปร่งแสงถูกพัฒนาด้านรูปลักษณ์ และคุณสมบัติขึ้นกว่าเดิมมาก จึงทำให้เจ้าของบ้านมีตัวเลือกเพิ่มขึ้น ไม่เป็นที่แปลกใจเลยว่าทำไมหลังคาโปร่งแสงถึงเป็นอีกทางเลือก ที่ได้รับความนิยมเป็นอย่างมากในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา
ทีมงาน Properroofing หวังว่าบทความนี้จะมีประโยชน์แก่คนที่กำลังหาข้อมูลหลังคาโปร่งแสง แต่ก็ขึ้นอยู่กับปัจจัยหลายอย่างในการตัดสินใจ เช่น ขนาดพื้นที่หลังคา งบประมาณ หรือการออกแบบที่จะทำให้รู้ว่า บ้านหลังไหนเหมาะกับหลังคาประเภทใด
ขอขอบคุณข้อมูลจาก
- scgbuildingmaterials.com
- ตัวแทนขายแผ่นอะคริลิค shinkolite scg
